1.
คุณรู้หรือไม่ว่า พืชแต่ละชนิดมีส่วนที่นำมาสกัดสารหอมไม่เหมือนกัน อาทิ เช่น
- กุหลาบ - จากดอก
-
เจอราเนียม - จากใบและลำต้น
- โรสแมรี่
- จากใบ
- มะกรูด -
จากผล
- เบอร์กามอท
- จากใบ
- อัลมอนด์
- จากเม็ด
- ไม้สน -
จากเปลือกและต้น
- ไวโอเลต -
จากดอกและลำต้น
- วนิลลา -
จากผล
2. กุหลาบตระกูลดีที่นำมาผลิตน้ำมันหอมระเหย
ต้องมาจาก 2 แห่งนี้
- กุหลาบชมพูจากอียิปต์ (โรส เดอ เมย์)
มักออกดอกในเดือนพฤษภาคม
- กุหลาบบัลกาเรียน จากหุบเขาในเมืองกาชานลุก ประเทศบัลกาเรีย
3. ดอกกระดังงา
(อีแลง-อีแลง-Ylang-Ylang) พันธุ์ดีที่เหมาะสำหรับทำน้ำมันหอม
ต้นมาจากหมู่เกาะมา
ดากัสการ์ ในมหาสมุทรอินเดีย
4. พืชตระกูลมินต์
และตระกูลเบอร์การ์มอท ต้องมาจากฝั่งคาเลเบียนทางใต้ของอิตาลี จึงจะดี
5.
พืชตระกูลขิง ไม้จันทร์ ต้องมาจากเอเชีย เช่น จากอินเดีย
6.
ยางสนตระกูลดี ต้องมาจาก ฟินแลนด์
7.
คุณรู้หรือไม่ว่า กว่าจะได้น้ำมันหอมระเหยแต่ละหยด ต้องใช้ ดอก ใบ ลำต้น ฯลฯ
เป็นจำนวนมหาศาล
น้ำมันหอมกลิ่นกุหลาบหนัก 1 ปอนด์
ต้องใช้กลีบกุหลาบถึง 100 ล้านกลีบ หรือ กุหลาบ 2000 กิโลกรัม จะได้น้ำมันหอม
เพียง 1 กิโลกรัมเท่านั้น
น้ำมันหอมกลิ่นมะลิ หนัก 1 กิโลกรัม
ต้องใช้ดอกมะลิถึง 4 ล้านดอก
น้ำมันหอมไธม์ หนัก 1 กิโลกรัม ต้องใช้ไธม์ถึง
400 กิโลกรัม
น้ำมันหอมเนโรลิ (Neroli) หนัก 1 กิโลกรัม
ต้องใช้ ดอกส้ม ถึง 6 ตัน
เอกสารอ้างอิง
- Dr.Tony Smith The British Medical Association - Family Doctor - Home
Adviser, Dorling Kindersley, London, 1994.
- Family Guide to Nature Medicine, Readers Digest 1993
- Dr.Stephen Carroll, Dr.Tony Smith The Complete Family Guide to
Healthy Living, Dorling Kindersley, London, 1992
- นิตยสารสารคดี ฉบับที่ 154 ปีที่ 13 เดือน ธันวาคม 2540
- นิตยสาร ELLE ฉบับที่ 43 เดือนพฤษภาคม 2541
- เอกสารอโรมาเธราปี The Body Shop
- เอกสารน้ำมันหอมระเหย To Nuture
|