ทำไมเราจึงเรียกแมลงปีกบางสีสดสวยนี้ว่า  " ผีเสื้อ "  สันนิษฐานกันว่าเนื่องจากปีกของผีเสื้อมีสีสันสดใสเหมือนกับสีของเสื้อผ้าที่คนเราสวมใส่  และการที่ผีเสื้อบินร่อนไปมา  ทำให้คนโบราณคิดกันไปว่ามีผีไปสิงอยู่ในตัวมัน  แม้นแต่ในปัจจุบัน    ชาวชนบทบางแห่งก็ยังเรียกผีเสื้อว่า " แมลงผี " บางท่านก็  สันนิฐานว่ามาจาก ผีเชื้อ เนื่องจากคติทางอีสานเชื่อว่าการที่มีผีเชื้อบินมาเป็นกลุ่มจำนวนมากมายจะเกิดโรคระบาด จึงทำให้เข้าใจกันว่าผีเสื้อเป็นผีเชื้อโรค สำหรับทางภาคเหนือเรียกผีเสื้อว่า " แมงกะป้อ " หรือ " แมงกะเบี้ย"  ชื่อเรียกในภาษาอื่น  มีเช่น    ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า  " โจโจ้ " ภาษาจีนแต้จิ๋วเรียกว่า "หู่เตี๊ยบ" ส่วนคำที่ใช้เรียกผีเสื้อ หรือ "BUTTERFLY" ในภาษาอังกฤษ มีผู้สันนิษฐานไว้ 2 ทางคือ ทางหนึ่งแปลว่า "เนยบิน" เพราะผีเสื้อที่พบชุกชุมในแถบอบอุ่นปีกมีสีเหลืองอ่อน ถึงสีเหลืองเข้มคล้ายกับสีของเนย เมื่อบินไปมาจึงดูเหมือนเศษเนยลอยร่อนอยู่ ส่วนอีกทางเชื่อว่าเพี้ยนมาจากคำว่า "BEAUTY FILES" ซึ่งหมายถึง ความสวยงามที่บินไปมาได้ ซึ่งการเรียกชื่อผีเสื้อในประเทศต่าง ๆ นั้นสามารถดูที่จาก  http://butterflywebsite.com  แต่ไม่ว่าแมลงปีกบางชนิดนี้จะมีชื่อเรียกว่าอย่างไรก็ตาม ผู้คนต่างก็ยอมรับกันว่า "ผีเสื้อ" คือหนึ่งในแมลงแสนสวยหลากสีสันที่สร้างความงดงามให้กับธรรมชาติ